Buscar
7/8/22
Militia - Old sküll (2017)
Militia - Old sküll (2017)
01 - El que calla
02 - No pueden con nosotros
03 - Por mano propia
04 - Sin piedad
05 - Todo es igual
06 - Amigo
07 - Entre-Liyos
08 - Resentimiento
09 - Perdedor
10 - Que vas a hacer
11 - Outro
Pablo Erzen batería, voz
Eduardo Nogueira bjo, segunda voz
Fernando De Elia guitarra
Jorge Moreno grabación, mezcla, producción
Ismael Ferreira arte
Juancho Albarracín diseño, concepto de portada
Pacheco records edita
Lanzamiento agosto 6, 2017
Grabado, mezclado y masterizado entre septiembre 2015 y julio 2016, Kirkincho records
Código de barras: 7 790250 000358
Número de matriz: MEGADISC MD 10267 - Industria Argentina
Código SID del molde: Q5M1
Derechos Sociedad: SADAIC - BIEM - AADI - CAPIF
El Edu Nogueira: Bajo y voz
Pablo Erzen: Voz y Bateria
Fernando Delia: Guitarra y voz
Disco editado agosto 6 2017
Pacheco records
Militia
Banda de thrash, crossover
Formada en 1987
Hurlingham, Buenos Aires, Argentina
Activa desde 1987 a 2000
Activa desde 2012
2017 allá vamos!!! Pronto adelanto del nuevo disco que será editado en unos meses, fechas y varias novedades. Se viene un gran año y queremos verlos a todos aguantando como siempre. Estamos enfermos, MILITIA!!!
Foto Juanchö Albarracin.
Domingo 6 de Agosto entre las 12 y las 14 hs en la Feria de Discos del Parque Centenario! Lanzamiento del nuevo disco de MILITIA "Old Skull" (Pacheco Records) + la presencia de Gustavo Bravo (dibujante de las portadas de "Demolición" de BLOKE, Compilado "Aleación" y la verdadera tapa de "El pacto" de THOR) para quienes deseen conocerlo y/o autografriar sus discos, y entrega en mano del METALICA ZINE (Año 31, Nro. 83).
Esperamos a los legionarios del HEAVY METAL, para compartir un buen momento, cerveza bien fría en mano! Larga vida al HEAVY METAL!!! (siempre con mayúscula!)
Al-Mawtin Al-Aswad - Arabian inheritance (2013)
Compilado - Al-Mawtin Al-Aswad - Arabian inheritance (2013)
01 - Eulen (Siria) - Desolate house
02 - Odious (Egipto) - For the unknown is horrid
03 - Immortal Seth (Arabia Saudita) - The rising
04 - Smouldering in Forgotten (Bahréin) - Ash and tallow
05 - Lagrima (Líbano) - Abhore the antagonists
06 - Laxsid (Siria) - Live to hate
07 - Al-Lat (Jordania) - The resurrection of zagut
08 - Ajris (Argelia) - Tamurt n'umazigh
09 - Dark Philosophy (Egipto) - The culture of defeat
10 - Hatecrowned (Líbano) - Untitled
11 - Qafas (Bahréin) - Kafkaesque retribution
12 - Despair (Siria) - Infinitives for decay
13 - Ordum (Líbano) - The false conflict
14 - Raven Legacy (Túnez) - Gott mit uns
15 - Abidetherein (Siria) - Begotten
16 - Flagellation (Túnez) - With quinqueremes of barca's curse
17 - Zatreon (Egipto) - Shemhamphorae
"Al-Mawtin Al-Aswad (Arabian Inheritance)" es un trabajo compilatorio realizado por diversas bandas de Medio Oriente, se compone por 17 tracks del más interesante Black Metal Árabe ( con sus respectivos derivados) que la región nos puede ofrecer.
El album se puede descargar totalmente gratis y hace algunos días lo vi en el portal de JorZine, un e-zine creado en 2006 en alguna parte del vasto territorio que comprende Medio Oriente, el cual está enfocado en promover y dar a conocer las nuevas propuestas que el Metal de aquella región tiene para el resto del mundo, además de contener algunas noticias de la escena global. A decir verdad no estoy muy seguro de quién o quienes son los autores de este compilado, pero lo que puedo decirles es que en el mismo se encuentran algunas bandas conocidas como Odious, Zartreon y Dark Philosophy, agregando a algunas bandas nuevas y algunas otras no tanto.
El link de descarga es el mismo que pueden encontrar en la página web de JorZine.
Mount Depression - Praise the lord of deception : Part one (2021)
Mount Depression - Praise the lord of deception : Part one (2021)
01 - Collider 05:00
02 - Nightmare 04:34
03 - Haunted 02:00
04 - Rainforest 02:09
05 - Cryogenic state 08:36
06 - Collider II 06:40
07 - Midnight to the sun 07:40
08 - Overdose and beyond 07:54
09 - Depression under revision 04:45
10 - Divine lie wielder 12:56
11 - Uncertainty 03:29
12 - An ethereal demonic statement 11:29
13 - Cultist 01:20
01:18:32
Elías R. bajo, voz, guitarra
Hernán Barrios bajo
Monkey batería
Hernán Barrios bajo
Monkey batería
Lanzamiento noviembre 13, 2021
V.I.D.A. en Corrientes (2022)
V.I.D.A. en Corrientes a su regreso de Wacken (2022)
Invitados
Bastión
Backbone
Hasta lo Ùltimo de la Tierra
@victimasinocentesdeargentina preparado para Detonar 💣 Corrientes 🔥
Luego de su paso por el Wacken Open Air 🇩🇪 vuelven a nuestro suelo una vez más 💀🤘
Agendalo: DOMINGO 9 DE OCTUBRE. 18hs
#Plaza Ribera Av. Centenario 4401 ( Ctes )
Bandas invitadas: @bastion_metal
@backbone.death
@hasta_loultimodelatierra
Entradas Anticipadas próximamente disponibles
เซ็ปปุกุ
เซ็ปปุกุ
**ศึกษาเป็นความรู้ อย่าเอาไปใช้งานนะครับ**
(คำเตือน บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาความรุนแรง ภาพประกอบไม่ได้มาจากเหตุการณ์จริง)
“เซ็ปปุกุ” หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักในอีกชื่อว่า”ฮาราคีรี” (“ฮาราคีรี”จะมีความหมายไปในทางดูถูกเหยียดหยาม หลังจากนี้บทความจะแทนที่คำดังกล่าวว่า”เซ็ปปุกุ”แทน) อันหมายความถึงการคว้านท้องตัวเองด้วยดาบสั้นจนกระทั่งตัวตาย ส่วนการกระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการคว้านท้องตัวเองซึ่งเรียกว่า “เซ็ปปุกุ” นี้ จะกระทำในสถานการณ์ต่างๆ อันมีอยู่สี่อย่างด้วยกันคือ
การกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงความอับอายที่ไม่อาจทนได้ เช่น ในกรณีที่เห็นว่าตนเองกำลังจะพ่ายแพ้การศึกต่อฝ่ายศัตรูก็จะทำการเซ็ปปุกุ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับเป็นเชลย อันเป็นความอัปยศสุงสุดของซามูไร
ส่วนในกรณีที่ผู้เป็นหัวหน้าของตนต้องตายเพราะการศึก ซามูไรผู้เป็นลูกน้องสำคัญก็จะทำการเซ็ปปุกุ เพื่อตายตามหัวหน้า ซึ่งการเซ็ปปุกุในลักษณะนี้เรียกว่า “จุนชิ”
หรือในกรณีที่กระทำความผิดอันขัดต่อคุณธรรมของซามูไร ซามูไรผู้นั้นจะกระทำการเซ็ปปุกุเพื่อลบล้างความผิดทางจิตใจของเขาเอง
การเซ็ปปุกุชนิดสุดท้ายเกิดจากคำสั่งของผู้มีอำนาจในแผ่นดินให้ซามูไรคนหนึ่งทำการฆ่าตัวตายด้วยวิธีการเซ็ปปุกุ ในกรณีที่ซามูไรคนนั้นกระทำผิดกฎหมายบ้านเมืองหรือปฎิบัติการณ์ใดๆ อันไม่เป็นที่พอใจของผู้มีอำนาจนั้นๆ
อย่างไรก็ดีขอให้เข้าใจว่าการ “เซ็ปปุกุ” เป็นการฆ่าตัวตายที่สงวนไว้สำหรับพวกนักรบซามูไรเท่านั้น ส่วนบุคคลอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า ชาวนา หรือแม้กระทั่งพวกขุนนางเอง จะฆ่าตัวตายโดยวิธี เซ็ปปุกุ ไม่ได้
“ไคชากุ” หมายถึงการเฝ้าคอยช่วยเหลือ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือให้ซามูไรพ้นจากการทนทุกข์ทรมานหลังจากได้ทำการ “เซ็ปปุกุ” เสร็จเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าคนเราแม้ว่าจะได้คว้านท้องตนเองจนลำไส้ไหลทะลักออกมากองบนพื้นเสื่อ แต่ก็ยังหาได้ตายอย่างง่ายๆในเวลาอันสั้นไม่ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของไคชาคุนินที่จะช่วยปลดเปลื้องความเจ็บปวดของซามูไรโดยการฟันคอให้ขาดกระเด็นทันทีที่พิธีสิ้นสุดลง
ในปี ค.ศ. 1868 นายเอบีมิทฟอร์ด ชาวอังกฤษ เป็นผู้หนึ่งที่ร่วมเป็นประจักษ์พยานในการกระทำเซ็ปปุกุ ของซามูไรญี่ปุ่น ชื่อ ทากิ เซ็นซาบุโร่ การกระทำเซ็ปปุกุของเขาในครั้งนั้นเกิดจากคำตัดสินของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ถือว่า เซ็นซาบุโร่มีความผิดในการสั่งให้ทหารภายใต้การควบคุมของเขายิงชาวต่างชาติในเมืองโกเบ ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นและชาวต่างชาติกลุ่มนั้นกำลังทำการตกลงในการทำสัญญาไมตรีกันอยู่ ซึ่งการปฎิบัติของเซ็นซาบุโร่เป็นการขัดคำสั่งของรัฐบาลและมีความผิดถึงขั้นประหารโดยให้ทำการเซ็ปปุกุ อย่างชาตินักรบ
การกระทำ “เซ็ปปุกุ” ของเซ็นซาบุโร่ปฎิบัติในตอนกลางคืนที่วิหารแห่งหนึ่งใกล้ๆกับเมืองโกเบ ซึ่งเอบีมิทฟอร์ด ได้บันทึกเหตุการณ์ในคืนนั้นไว้ว่า
“ซามูไร เซ็นซาบุโร่ ได้นั่งคุกเข่าอยู่บนเสื่อในวิหารใหญ่ เมื่อได้เวลาทำการเซ็ปปุกุ เขาหยิบดาบสั้นขึ้นมาจากถาดที่วางอยู่เบื้องหน้าแล้วเพ่งมองดาบเล่มนั้น คล้ายกับจะดูเป็นครั้งสุดท้ายว่า ต่อไปเขาจะไม่ได้นำมันติดตัวไปไหนมาไหนอีกแล้ว เขานั่งเงียบสงบอยู่ครู่หนึ่งเพื่อรวบรวมสมาธิเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจึงใช้ดาบสั้นแทงชายโครงทางด้านซ้ายตรงกลางช่วงท้องลึกลงไปประมาณ 6 นิ้ว จากนั้นก็ลากคมมีดกรีดท้องมาทางชายโครงด้านขวาอย่างช้าๆ จนหน้าท้องเปิดเป็นแผลยาวลำไส้ไหลทะลักออกมา แต่เขาก็ยังไม่ได้หยุดยั้งเพียงแค่นั้น เขาดึงดาบสั้นออกมาแทงลงตรงตอนบนของหน้าท้องแล้วค่อยๆกรีดลงสู่เบื้องล่างเป็นรูปกากบาท ตลอดเวลาแห่งความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสนั้น ใบหน้าของเขามิได้แสดงความเจ็บปวดออกมาแม้แต่น้อย เมื่อเขาดึงดาบสั้นออกมาจากท้องอีกครั้งหนึ่ง ตัวเขาเอนไปข้างหน้าขณะเดียวกันก็ยื่นลำคอออกไป…
ในช่วงนั้นเองไคชากุนิน ผู้ช่วยการกระทำเซ็ปปุกุ ที่จับตามองอยู่ตั้งแต่เริ่มต้นทางเบื้องหลังด้านซ้ายของเขา ได้ลุกขึ้นจากท่าคุกเข่าเงื้อดาบยาวขาววับขึ้นกลางอากาศ แล้วฟันลงอย่างรวดเร้ว จนศีรษะของเซ็นซาบุโร่ขาดหลุดออกจากบ่าทันที”
สำหรับการกระทำเซ็ปปุกุ ของเซ็นซาบุโร่ในครั้งนั้นนับว่าเป็นการเซ็ปปุกุที่คลาสสิคครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเซ็ปปุกุของซามูไร เพราะตลอดเวลาที่เขากรีดมีดดาบเปิดแผลหน้าท้องออกมาช้าๆนั้น กล้ามเนื้อบนใบหน้ามิได้กระตุกแสดงให้เห็นริ้วรอยของความเจ็บปวดได้เลย ซึ่งกล่าวได้ว่าเซ็นซาบุโร่ เป็นคนมีจิตใจเข้มแข็งจริงๆ เพราะการควบคุมอดกลั้นความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสไม่ให้ปรากฎออกมาบนใบหน้านั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยากจริงๆ
ดูเหมือนว่าซามูไรทุกคนถือว่าความตายเป็นเรื่องเล็กน้อยมากสำหรับพวกเขา ส่วนเกียรติยศและชื่อเสียงต่างหากที่ซามูไรถือว่ามีค่าและมีความสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด การตายเป็นสิ่งที่ “เบาบางยิ่งกว่าขนนก”เสียอีก และใครก็ตามที่ตายด้วยการ”เซ็ปปุกุ” ถือว่าเป็นเกียรติยศอย่างสูงที่ลูกหลานภายหน้าจะมีความภาคภูมิใจ
บทความจากหนังสือ ซามูไร ชนชั้นนักรบของญี่ปุ่น (2530)
Suscribirse a:
Entradas (Atom)